
กระเพาะปลา มีชื่อในภาษาจีนแต้จิ๋ว คือ “หื่อเผีย” แปลว่า ถุงลมซึ่งมีหน้าที่สำหรับควบคุมการลอยตัวของปลา พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นอวัยวะที่ช่วยปลา สำหรับการว่ายน้ำโดยปกติแล้ว เราจะเห็นได้ว่ากระเพาะปลา มักเป็นวัตถุดิบสำหรับประกอบเป็นอาหาร เช่น กระเพาะปลาน้ำแดง หรือกระเพาะปลาผัดแห้งแล้วคำถามที่ตามมาก็คือ ทำไมมันถึงแพง ?หากจะหาคำตอบ เราก็ต้องไปดูแหล่งที่มีการบริโภคกระเพาะปลามากสุดในโลก นั่นคือ ประเทศจีนสำหรับประเทศจีนนั้น กระเพาะปลาเป็นสิ่งที่ผู้คนบริโภคกันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง หรือประมาณกว่า 1,000 ปีที่แล้วโดยในตำราจีนมีการบอกว่า กระเพาะปลามีสรรพคุณ เช่น บำรุงเลือด ตับ และไต เลือดลมไหลเวียนดี เพิ่มกำลังวังชา เพิ่มอายุวัฒนะ และอื่น ๆ อีกมากมายด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้กระเพาะปลาได้กลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องบรรณาการจากหัวเมืองชายฝั่งทะเล ที่ถวายให้แก่ฮ่องเต้ และเป็นสิ่งที่ชาวบ้านทั่วไปนิยมรับประทาน ในช่วงโอกาสพิเศษ เช่น วันเกิด วันตรุษจีน หรืองานแต่งงานในเวลาต่อมา ก่อให้เกิดเป็นประเพณี คือ ครอบครัวคนจีนมักจะเก็บกระเพาะปลาไว้ให้ลูกสะใภ้ หรือลูกสาวของตนรับประทานในช่วงเวลาตั้งครรภ์ เพื่อให้สุขภาพดี และช่วยบำรุงผิวพรรณเด็กในท้องด้วยโดยจะให้แม่รับประทานหลังคลอดลูก เพื่อฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงจะได้มีน้ำนมเยอะ ๆ ให้ลูกได้ดื่มกินจากเรื่องราวนี้ ทำให้ชาวจีนยกย่องกระเพาะปลาให้เป็น “โสมทะเล” และเป็น 1 ใน 4 อาหารอันโอชะของท้องทะเล ร่วมกับหอยเป๋าฮื้อ ปลิงทะเล และครีบฉลามพอเรื่องเป็นแบบนี้ ครอบครัวชาวจีนจึงเริ่มเก็บสะสมกระเพาะปลากันมากขึ้น ถึงขั้นเก็บกันเป็นสินทรัพย์ เป็นมรดก รวมถึงมีผู้ประกอบการบางรายก็ซื้อเก็บด้วยเช่นกัน อย่างที่เราเห็นได้ตามร้านรับซื้อกระเพาะปลาย่านเยาวราชแล้วทีนี้ หลายคนก็น่าจะสงสัยแล้วว่าทำไมกระเพาะปลาที่เรารับประทานกัน บางชิ้นก็มีราคาถูก แต่ทำไมบางชิ้นก็มีราคาแพงคำตอบมีหลายเหตุผลเหตุผลแรกคือ กระเพาะที่อยู่ในกระเพาะปลาน้ำแดงในบางร้านนั้น อาจไม่ได้ทำมาจากปลาแท้ ๆ แต่ทำมาจากกระเพาะปลาเทียม ที่ทำมาจากหนังหมู..สำหรับผู้ที่อยากรู้ว่าสิ่งที่เราทานเข้าไปเป็นปลาหรือหมู

เราก็สามารถสังเกตได้เอง โดยถ้าเป็นกระเพาะปลา จะมีลักษณะทรงโค้ง เรียบ และเนื้อแน่น
แต่หากเป็นหนังหมู จะมีรูปร่างที่แบน หยาบ และมีฟองอากาศกระจายทั่วผิวอีกส่วนหนึ่งที่แม้ว่าจะเป็นกระเพาะปลาแท้ ๆ แต่กลับมีราคาถูก เพราะว่ากระเพาะปลาที่นำมาใช้นั้นเป็นแบบทอด ที่เป็นการนำกระเพาะปลาตากแห้งมาทอดจนฟู จะมีอายุในการเก็บที่ไม่นานซึ่งต่างจากกระเพาะปลาที่มีราคาแพง ที่เป็นการเอาถุงลมปลาแบบสด มารีดน้ำออกจนหมด แล้วนำไปตากแดดให้แห้งสนิทเท่านั้น ซึ่งสามารถรักษาคุณภาพ และอายุของวัตถุดิบได้ดีกว่า รวมถึงมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดีกว่าอีกด้วยอย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่าแม้จะเป็นกระเพาะปลาแบบสดเหมือนกัน
แต่ก็สามารถมีราคาที่แตกต่างได้เช่นกันแล้วอะไรคือตัวกำหนดว่า กระเพาะปลาแบบไหน ควรมีราคาแพงหรือถูกอย่างแรกเลยคือ “พันธุ์ปลา” ยิ่งถ้าสูญพันธ์ุไปแล้ว หรือหาจับได้ยาก ยิ่งมีราคาสูงปัจจุบันกระเพาะปลาที่ติดหนึ่งในอันดับที่มีราคาแพงสุด อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาทต่อกิโลกรัมเป็นสายพันธุ์กิมจี้ ซึ่งเป็นชนิดปลาน้ำลึกที่หาได้ยาก และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายของประเทศจีนแล้วต่อมาคือ “ลักษณะของกระเพาะปลา” ยิ่งมีขนาดใหญ่ยิ่งดี และต้องมีสภาพสมบูรณ์นอกจากนั้น “ความเก่า” ก็สำคัญ เพราะคนเชื่อว่ายิ่งกระเพาะปลามีอายุ จะยิ่งช่วยเพิ่มสรรพคุณเป็นยาบำรุงมากขึ้น ซึ่งความเก่านี้เอง จะสังเกตได้จากสีของกระเพาะปลา ยิ่งสีเหลืองเข้มแปลว่ายิ่งมีความเก่านอกจากนี้กระเพาะปลาที่ดีควรมีกลิ่นน้ำทะเลอ่อน ๆ แต่ไม่มีกลิ่นคาวแล้วรู้หรือไม่ว่า “เพศของปลา” ก็เป็นตัวกำหนดราคาเช่นกันหากกระเพาะปลาทั้งสองมีลักษณะที่ไม่แตกต่างกัน แต่มีเพศต่างกัน
โดยปกติแล้ว กระเพาะปลาเพศผู้ จะมีราคาที่สูงกว่าเพศเมีย
เนื่องจากกระเพาะปลาเพศผู้จะมีความหนา เนื้อแน่น และไม่ละลายในปาก
รวมถึงเชื่อว่า มีสรรพคุณที่มากกว่า ขณะที่กระเพาะปลาเพศเมีย มีความบางและอ่อนนุ่มมากกว่าปัจจัยสุดท้ายคือ “แหล่งที่มา” ถ้าหากจับปลาได้ที่ทะเลจีนตะวันออก หรือทะเลจีนใต้ จะถือว่ากระเพาะปลาที่ได้นั้นมีคุณภาพมาก เมื่อเทียบกับแหล่งอื่น ๆและทั้งหมดนี้ คือเรื่องราวของกระเพาะปลา ซึ่งเราก็พอสรุปได้ว่า ราคาของกระเพาะปลาที่สูงนั้นเกิดมาจากความเชื่อ เรื่องสรรพคุณการเป็นยาบำรุง และความต้องการที่ยังมีอยู่มาก ขณะที่จำนวนสินค้านั้นหาได้ยากขึ้นและถ้าหากถามว่า มูลค่ากระเพาะปลาหลักสิบล้านบาท เป็นเรื่องที่แปลกหรือไม่
เรื่องนี้ก็คงต้องตอบว่าขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน
เพราะของสะสมอื่น ๆ เช่น ของเล่น เหรียญเก่า นาฬิกา งานศิลป์ หรือแม้แต่เหรียญคริปโทเคอร์เรนซี ก็สามารถมีมูลค่าที่สูงได้ อยู่ที่ว่าคนในกลุ่มนั้นพึงพอใจกับสิ่งที่จ่ายหรือเปล่า ก็เท่านั้นเอง..